เมื่อ สิงโตน้ำเงิน เชลซี คว้าตัว ซาอูล ญีเกซ (Saul Niguez) มาร่วมทีม แบบที่ต้องลุ้นจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนตลาดซื้อ-ขายจะปิด แต่การได้ตัวมาจะช่วยทำให้ สิงห์บลูส์ มีความแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้นอีกหลายขุม เพราะถ้ามองจากขุมกำลังที่มีอยู่แล้ว การได้อดีตนักเตะอย่างทีม แอดแลนติกโก้ มาดริค มาเสริมอีกคน เท่ากับว่า สิงห์บลูส์ พร้อมออกล่าแชมป์ทุกรายการอย่างเต็มที่ และ ไม่จำเป็นต้องกลัวใครทั้งนั้น มาดูกันว่า แข้งป้ายแดงคนใหม่ ที่มีดีกรีแชมป์ ลา ลีกา สเปน ติดตัวมาด้วย จะนำประโยชน์อะไรมาสู่สโมสรบ้าง
ประสบการณ์ของซาอูล
ซาอูล ย้ายมาร่วมทีม สิงโตน้ำเงินคราม ด้วยสัญญายืมตัว เขามาพร้อมกับประสบการณ์ที่ล้น กับ สโมสรแอตเลติโก มาดริด ที่อยู่มานับตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชน จนพัฒนาฝีเท้าของตัวเองแบบก้าวกระโดด กลายมาเป็นแกนหลักของทีมได้ในที่สุด
บทเรียนที่สำคัญของเขาเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2015-2016 เมื่อต้องพบกับ ความผิดหวัง ที่เป็นได้แค่รองแชมป์ถึง 2 ถ้วย อย่าง ลา ลีกา สเปน รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น ช่วยให้เขาเติบโตขึ้น ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเพื่อลบรอยแผลที่มีอยู่ในใจ จากนั้นฤดูกาล 2017-2018 เขาสามารถคว้าแชมป์กับ แอดฯ มาดริค ได้สำเร็จ ในรายการ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ได้สำเร็จ
จากบทเรียน ที่น่าผิดหวัง มันส่งผลให้มีแรงกระตุ้น หวังเป็นผู้ชนะในสักวัน ซึ่งเขาทำมันได้ และ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะ เมื่อซีซั่นที่แล้ว เจ้าตัวก็เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองช่วยให้ แอตฯ มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้ในรอบ 7 ปี ถึงแม้ช่วงหลังจะมีหลุดเป็นตัวสำรองไปบ้าง
ดังนั้น การเก็บข้าวของมายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจเป็นความท้าทายครั้งใหม่ แต่มีดีกรีแชมป์ติดตัวมาเพียบ อยู่ที่ว่าเจ้าตัวจะใช้เวลานานแค่ไหนในการปรับตัว ให้เข้ากับฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่มีสไตล์ต่างกับ บอลสเปน อย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมา จะทำให้ สิงห์บลูส์ มีความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
การได้ตัว ซาอูล มาแทน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่กำลังได้รับบาดเจ็บ
ด้วยอายุของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เมื่อแตะขึ้น 30 ก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยๆ ด้วยสไตล์การเล่นที่ใช้พละกำลังเยอะ วิ่งไม่มีหยุด แต่พออายุเยอะ สภาพร่างกายก็ไม่ฟิตเหมือนแต่ก่อน ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย แต่กว่าจะหายกลับมาลงสนามได้ นั้นต้องใช้เวลานาน
ส่วน มาเตโอ โควาซิช เป็นอีกคนที่มักมีอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าทีมขาด 2 ผู้เล่นตัวสำคัญนี้ไป ก็จะเหลือแค่ จอร์จินโญ่ คนเดียวในตำแหน่งกองกลาง และ อาจก่อเกิดปัญหากับทีมได้ เนื่องจากฤดูกาลนี้ สิงโตน้ำเงิน ต้องมีโปรแกรมลงแข่งขันมากกว่าทีมอื่นๆ
โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม โปรแกรมการแข่งขันจะค่อนข้างแน่น เนื่องจากมี บ็อกซิ่ง เดย์ เข้ามาร่วม ซึ่งทีมอื่นจะลงเตะกันแค่ 8 เกม ยาวไปจนถึงวันปีใหม่ ธรรมดาเดิมทีเตะขนาดนี้ก็รู้สึกล้าแล้ว แต่ เชลซีล่าสุด อาจต้องลงเล่นมากกว่า 10 เกม เพราะต้องมีบินไปเตะ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น การได้ตัว ซาอูล เข้ามาเสริมทัพ จะช่วยเติมเต็มให้ทีมมีความคงตัวสูงมากขึ้น ได้มีตัวทดแทนในกรณีผู้เล่นคนอื่นในทีมได้รับบาดเจ็บ
มีตัวยิง สิงโตน้ำเงิน จากระยะไกล
ดูจากตำแหน่ง กองกลางยังนึกภาพ ไม่ออกเลยว่า เชลซี จะได้ประตูจากการยิงไกลเหมือนทีมอื่นบ้างไหม ด้วยวิธีการเล่นของแต่ละคน มักจะออกบอลสั้นๆ ต่อบอลตามช่อง และพาบอลไปข้างหน้า ซะมากกว่า การส่องจากแถวสองจะไม่ค่อยมีให้เห็น
หรือ ถ้ามีโอกาส ก็จะหลุดออกไปชนิดที่ไม่ได้ลุ้น ถ้าให้พูดง่ายๆ คือ ตอนนี้ ทีมไม่มีตัวยิงจากระยะไกลเลย ยิ่งมี โรเมลู ลูกากู (Romelu Lukaku) เข้ามา การครอสบอล หรือ ฝากบอลไปที่เขา ก็จะมากขึ้น
จากที่กล่าวไป ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แต่ถ้าเกมการแข่งขันที่มีความอึดอัด ทำยังไงก็เจาะไม่เข้าสักที มันก็ต้องมีการลองยิงไกลจากแถวสองดูบ้าง แต่ดูบรรดากองกลางตอนนี้ จอร์จินโญ่ , มาเตโอ โควาชิซ ,เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยังนึกไม่ออกเลยว่าใครจะเป็นคนพาบอลไปสู่ก้นตาข่ายได้จากระยะ 20-30 หลา เพราะทั้ง 3 คน มีจุดเด่นด้านอื่นมากกว่า
ซึ่งการเข้ามาของ ซาอูล อาจเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ สิงโตน้ำเงิน กำลังตามหา เพราะ เจ้าตัวมักมีทีเด็ดจากการยิงไกลให้เห็นอยู่เสมอ ดังนั้นจุดนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดที่ สิงโตน้ำเงิน ไว้ใช้เล่นงานคู่แข่ง
ย้ายมา สิงโตน้ำเงิน ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมสัญญาซื้อขาด
ซาอูล อยู่ในช่วงฟอร์มตกจากฤดูกาลที่แล้ว โดยถูกจับไปเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัดบ้าง หรือปล่อยให้นั่งสำรองบ้าง จนทำให้ผลงานเจ้าตัวดรอปลงไปมาก และ ความสำคัญในทีม แอตฯ มาดริด ก็ลดน้อยถอยลงไปด้วย ถึงแม้ว่า เชลซี จะต้องจ่ายค่ายืมตัวใช้งานจนสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ในราคา 4.3 ล้านปอนด์ พ่วงด้วยสัญญาซื้อขาด 34 ล้านปอนด์ ซึ่งมันอาจดูเยอะในสายตา
แต่กระนั้นถ้าหากว่าสุดท้ายแล้ว ซาอูล ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ อาจจะด้วยสไตล์ หรือ ปรับตัวเข้ากับทีมไม่ได้ ทว่า เชลซี ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนโต เพื่อซื้อมาร่วมทีม เพราะในเงื่อนไขไม่ได้ระบุว่าไว้ว่า สิงห์บลูส์ ต้องซื้อขาด หากทำผลงานไม่ดี หรือ มีอาการบาดเจ็บ ก็แค่ส่งตัวกลับ แอตฯ มาดริด ไปแค่นั้น
จากทุกข้อที่กล่าวมา ทั้งประสบการณ์, เป็นตัวเสริมออปชั่น มิดฟิลด์ รวมถึงการทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษ การใช้เงินเพียงแค่ 4.3 ล้านปอนด์ นับเป็นราคาที่คุ้มกับความเสี่ยง และ ถ้า ซาอูล สามารถระเบิดฟอร์มออกมาได้ละก็ 34 ล้านปอนด์ เป็นอะไรที่จิ๊บๆ มากสำหรับ สิงห์บลูส์ .. เวลาจะเป็นคำตอบ ว่า ซาอูล จะเข้ามาแทนที่ และเติมเต็ม ความแข็งแกร่งให้กับทีมได้หรือ อดใจรอสักครู่ ได้เห็นกันแน่นอน